พระอุตรการบดี หรือ หลวงพ่อทา โสณุตฺตโร อดีตเจ้าอาวาส #วัดพะเนียงแตก จังหวัดนครปฐม ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ยุคต้นที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดในจังหวัดนครปฐม ท่านเป็นพระนักปฏิบัติเชี่ยวชาญทางสมถกรรมฐาน เคร่งครัดในสังฆกิจ ปฏิบัติตามพระพุทธบัญญัติครบถ้วน มีความแตกฉานทั้งทางพระธรรมวินัย วิปัสสนา และไสยเวทย์ ท่านเติบโตที่ตำบลบ่อผักกูด อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี บรรพบุรุษท่านเป็นชาวลาว มีน้องชาย 3 คน เมื่อโตขึ้นได้อุปสมบท ศึกษาวิปัสสนากรรมฐาน และพุทธาคมต่างๆ จากพระอุปัชฌาย์ และพระอาจารย์มอญรูปหนึ่ง และออกธุดงค์ไปตามป่าเขา ท่านได้ธุดงค์มาปักกรดลงที่วัดพะเนียงแตก ซึ่งเป็นวัดร้าง สภาพบริเวณวัดเป็นทุ่งนา ป่าละเมาะอยู่ทั่วไป มีเรื่องเล่าว่า แต่เดิมไม่ใช่ชื่อ “วัดพะเนียงแตก”
Thank you for reading this post, don't forget to subscribe!เหตุมาจากที่หลวงพ่อทาชอบเล่นพลุไฟพะเนียง วันหนึ่งในงานเทศกาลประจำปีของวัด ท่านเอามือไปปิดปากพลุไม่ให้พลุออกมาทางปาก จึงระเบิดออกทางด้านข้าง แต่ท่านไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ เลย ที่ทำเช่นนี้ ท่านต้องการให้พวกนักเลงหัวไม้เกรงขาม จะได้ปกครองและอบรมให้เป็นคนดีได้ ซึ่งก็เป็นดังนั้น ต่อมาในงานเทศกาลประจำปีของวัด ก็ไม่มีเหตุการณ์ร้ายเกิดขึ้นสักครั้งเดียว จนชาวบ้านให้ฉายาว่า #หลวงพ่อพะเนียงแตก และเรียกชื่อวัดว่า “วัดพะเนียงแตก”
หลวงพ่อทา ได้เป็นเจ้าอาวาสวัดพะเนียงแตก และมีตำแหน่งเป็นเจ้าคณะแขวงเมืองนครปฐม มีสมณศักดิ์เป็นพระครูอุตรการบดี ผู้รักษาพระปฐมเจดีย์ด้านทิศเหนือ ดังปรากฏใน “สาส์นสมเด็จ” ท่านเป็นพระเกจิที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากในราวปี พ.ศ.2400–2450 ความเฉียบขาดและความดุของท่านทำให้นักเลงและเสือร้ายเกรงกลัวมาก จนได้รับฉายาว่า #หลวงพ่อเสือ อีกฉายาหนึ่ง
วัตถุมงคลที่ท่านได้สร้างนั้น เช่น ตะกรุด พระปิดตา ทั้งเนื้อสัมฤทธิ์และเนื้อเมฆพัด อีกทั้งเหรียญหล่อรุ่นแรกและรุ่นสอง ทุกอย่างล้วนเป็นที่นิยมทั้งสิ้น
หลวงพ่อทา ท่านถึงมรณภาพเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ.2462 สิริอายุได้ 96 ปี พรรษาที่ 76