เหรียญกรมหลวงชุมพรฯ หลังหลวงปู่ศุข รุ่น 1 ร.ศ.129 เนื้อเงิน วัดปากคลองมะขามเฒ่า จ.ชัยนาท ปี 2504

Thank you for reading this post, don't forget to subscribe!

เหรียญเสด็จเตี่ย กรมหลวงชุมพรฯ ด้านหลังหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า จ.ชัยนาท รุ่น 1 ร.ศ.129
รายละเอียด (ร.ศ. ) คือตัวย่อของ รัตนโกสินทร์ศก คือนับปีแรกที่สร้างกรุงรัตนโกสินทร์เป็นปี ร.ศ.ที่ 1 (ปี พ.ศ. 2325) ลองบวกลบกันเอาเองนะครับ) ตามประวัติการสร้าง กรมอู่ฯได้จัดทำขึ้นเพื่อแจกให้กับทหารเรือเท่านั้น และได้มีการปลุกเสกทำพิธีที่วัดปราสาทปุญญาวาส กทม. นอกจากนี้ยังมีคนกล่าวว่า
หลวงปู่ศุขก็ได้เป็นผู้ที่ปลุกเสกเองด้วย แต่จะที่วัดปราสาทฯ หรือที่วัดมะขามเฒ่า ไม่มีข้อมูลด้านนี้ครับ และหลังจากที่ท่านปลุกเสกเหรียญนี้ได้ไม่นานท่านก็มรณภาพครับ เหรียญรุ่นนี้จึงเป็นเหรียญที่หายากมาก เพราะเป็นรุ่นท้ายๆแล้วที่หลวงปู่ศุขปลุกเสกเอง ประกอบกับว่าทำขึ้นด้วยจำนวนจำกัด จึงไม่เพียงพอกับความต้องการ จึงคาดว่าน่าจะมีการทำออกมาเพิ่มอีกในภายหลัง และให้ชื่อรุ่นว่า “รุ่นพิเศษ” แต่ก็ไม่เป็นที่นิยม เพราะหลวงปู่ศุขมิได้ปลุกเสกด้วยตัวเอง ต่อมาจึงมีพวกหัวใสมารศาสนามีการทำเลียนแบบขึ้นมาเยอะ จึงมีคนที่ดูไม่เป็นโดนหลอกไปมากแล้ว เป็นที่โจษจันกันไปทั่ว ทำให้คนที่ไม่รู้ก็เลยไม่กล้าที่จะหามาบูชาครับ พูดง่ายๆ คือไม่ใช่พระตลาด ถ้าเป็นของแท้ ราคาก้อน่าจะเป็นแสนขึ้นไปครับ แล้วแต่สภาพและความสมบูรณ์
ของเหรียญ แต่เหรียญนี้เป็นรุ่นแรกๆ ที่มีการสร้างเหรียญกรมหลวงชุมพรฯ เป็นเหรียญเก่าที่หายากมากๆ เหรียญหนึ่งในปัจจุบัน และเป็นที่ต้องการอย่างมากโดยเฉพาะในวงราชการครับ พุทธคุณด้านหน้าที่การงานและแคล้วคลาด ทำขึ้นเพื่อให้ทหารในสมัยก่อนติดตัวไว้บูชาเป็นขวัญกำลังใจยามที่ต้องออกรบ ทำศึกสงคราม และจากการที่ผมมีไว้ในครอบครองอยู่ด้วย จึงได้ค้นคว้าศึกษาจากหนังสือและตำรามากมาย พอจะสรุปวิธี
ดูของ แท้ไว้ดังนี้ครับ สังเกตุได้ไม่ยากมีตำหนิอยู่หลายที่ที่โดดเด่น ขอได้โปรดใช้วิจารณญาณ ดังนี้ครับ.-
1. คำว่าวัดมะขามเฒ่า ไม้เอกที่อยู่คำว่าเฒ่า จะไม่ตรง มันจะอยู่ตรงหัวของ ฒ. แทนที่จะอยู่ตรงหางของ ฒ. เป็นตำหนิอีกอย่าง
2. เครื่องราชย์ที่กรมหลวงสวมใส่อยู่ จุดวงกรมทางกึ่งกลางด้านล่าง จะต้องมีจุดอยู่ตรงกลางของวงกรมใหญ่ที่เรียงอยู่ ถ้ารุ่นไหนเป็นวงกลมใหญ่เต็ม ก็เป็นของปลอมครับท่าน
3. อัครภาษาบาลีหางยาว ตัวหนังสือบาลีหางตัวหนังสือต้องหวัดคล้ายใช้ลายมือเขียน
4. ดวงตาทั้งกรมหลวงชุมพรฯ และหลวงปู่ศุข เป็นเม็ดไข่ปลา ต้องลึกและชัดเจน
5. คำว่า ร.ศ. ตัวจุดต้องชัดเจน เหมือนกับจุดที่อยู่บนเครื่องราชย์ของกรมหลวงชุมพรฯ หางของตัว ศ. จะตวัดยาวลงมาเหมือนการเขียนเล่นหาง แต่ปลายจะมนไม่แหลมครับ
6. รูปหน้าของเสด็จเตี่ย ท่านจะทรงหันข้างเล็กน้อย ทำให้เห็นใบหูแค่เพียงข้างเดียว
7. ตำหนิอีกจุด คือ คำว่ากรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ บล๊อคเดิมของแท้ ในสมัยก่อน ไม่มีการตรวจบล๊อคจากผู้ทำ ทำให้เกิดเป็นการอัดบล็อคออกมาเป็น “กรมหลวงชุมพรเขตร์อุดมศักดิ์” เหรียญแท้จึงมี
ตัวการันต์ เท่านั้น แต่เนื่องจากพอทำเหรียญจริงขึ้นมาจำนวนมากๆ เสร็จหมดแล้ว จะมาแก้ทีหลังก็ไม่ทันการ ก็ปล่อยเลยตามเลยกันไป…
ข้อมูลเบื้องต้น ปี 2453 ได้เลื่อนจาก กรมหมื่นชุมพรเขตร์อุดมศักดิ์ื่ เป็น กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ฯ และ (คำ “เขตร์” ในพระนามเปลี่ยนเป็น “เขต” ด้วย) และ ทรงสิ้นพระชนม์ที่ ตำบลทรายรี ในวันที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2466 สิริพระชนมายุได้ 43 พรรษา////ส่วนหลวงปู่ศุข เกิดเมื่อวันจันทร์ เดือน 4 ขึ้น 8 ค่ำ ปีวอก พ.ศ. 2390 ที่บ้านมะขามเฒ่า สมัย ร.5 ท่านมรณภาพเมื่อ เดือน 1 ปีกุน พ.ศ. 2466 จึงเป็นไปได้ว่า เหรียญรุ่นนี้ได้สร้างในปี 2453 เพื่อแจกในวันเลื่อนอิสริยศักดิ์ ซึ่งแน่นอนต้องมีการสร้างเหรียญนี้ไว้ก่อนจนถึงวันงานโดยผู้สร้างคงยังไม่ทราบว่า จะมีการเปลี่ยน (คำ “เขตร์” ในพระนามเปลี่ยนเป็น “เขต” ด้วย) จึงยังมีการใช้ (เขตร์) อยู่ ร.ศ. 129 = พ.ศ. 2453//// เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2453 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงประชวรเสด็จสวรรคต ณ พระที่นั่งอัมพรสถานพระราชวังดุสิต จึงเป็นไปได้ว่า ร.ศ. 129 ที่พิมพ์ไว้ เพื่อระลึกถึงวันที่ ร.5 สวรรคต
ข้อมูลคัดลอก……
“สมัย ร. 4 ในปี พ.ศ. 2400 สมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรียแห่งสหราชอาณาจักร ได้จัดส่งเครื่องผลิตเหรียญกษาปณ์ขนาดเล็กเข้ามาถวายเป็นราชบรรณาการแด่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวฯ จึงทรงโปรดเกล้าฯ ให้จัดทำเหรียญกษาปณ์จากเครื่องจักรขึ้นเป็นครั้งแรก เรียกกันว่า เหรียญบรรณาการ ต่อมาเลิกใช้เพราะผลิตได้น้อย และเครื่องผลิตเหรียญกษาปณ์แรงดันไอน้ำมาใหม่ จึงโปรดให้สร้างโรงงานผลิตเหรียญกษาปณ์ขึ้นที่หน้าพระคลังมหาสมบัติ ในพระบรมมหาราชวัง พระราชทานนามว่า “โรงกระสาปน์สิทธิการ” เงินเหรียญชุดแรกที่ผลิตจากเครื่องจักรนี้ มีลักษณะคล้ายกับเหรียญชุดบรรณาการ จากนั้นได้มีการพัฒนา เครื่องผลิตเหรียญในประเทศไทยเรื่อยมา….”