ประเภทพระ

พระพุทธรูปบูชากระเบื้องเคลือบ (กังไส) ศิลปะจีนยุค เฉียนหลงฮ่องเต้

พระพุทธรูปบูชากระเบื้องเคลือบ (กังไส) ศิลปะจีนยุค เฉียนหลงฮ่องเต้

Thank you for reading this post, don't forget to subscribe!

คำว่า “กังไส” (Gan gxi / 景德鎮) ในภาษาไทย เป็นที่รู้จักในฐานะเครื่องลายครามจีนที่ผลิตขึ้นในเมือง “จิ่งเต๋อเจิ้น” (Jingdezhen / 景德鎮) มณฑลเจียงซี ซึ่งเป็นศูนย์กลางการผลิตเครื่องเคลือบดินเผาที่สำคัญที่สุดของจีนมานานกว่าพันปี และในยุคเฉียนหลงก็นับเป็นยุครุ่งเรืองสูงสุดของศิลปะนี้ พระพุทธรูปบูชาที่ทำจากกระเบื้องเคลือบ หรือ “พุทธศิลป์แบบกังไส” ในยุคเฉียนหลงฮ่องเต้ ถือเป็นสุดยอดศิลปกรรมเชิงพุทธแบบจีนที่ผสมผสานความศรัทธาทางศาสนาและฝีมือเครื่องเคลือบขั้นสูงของราชสำนักจีนในราชวงศ์ชิงอย่างลึกซึ้ง

พระพุทธรูปองค์นี้มีอายุราว 200 กว่าปี มีความสมบูรณ์งดงามมาก อยู่ในห้วงเวลาทองของราชวงศ์ชิง ยุคสมัยของจักรพรรดิเฉียนหลง (ค.ศ. 1736 – 1795) ศิลปกรรมจีนได้บรรลุถึงจุดสูงสุดแห่งความวิจิตร ละเมียดละไม และทรงอำนาจ พระพุทธรูปองค์นี้คือภาพแทนแห่งศรัทธาและศิลป์ที่หลอมรวมไว้ด้วยภูมิปัญญาของช่างหลวงจากเมืองจิ่งเต๋อเจิน

พุทธลักษณะและรูปแบบ

พระพุทธรูปประทับนั่งขัดสมาธิบนฐานบัวหลวง สะท้อนสภาวะแห่งสมาธิขั้นสูงสุดปางมารวิชัย แสดงถึงชัยชนะเหนืออาสวะมาร สื่อถึงพลังอำนาจและปัญญาอันยิ่งใหญ่ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระหัตถ์ขวาวางทาบลงเหนือพระชานุซ้าย ปลายนิ้วชี้แตะพื้นมั่น ดุจกล่าวว่า “โลกนี้เป็นพยานแห่งการตรัสรู้ของเรา” พุทธลักษณะโดยรวมแสดงถึงภาวะแห่งสมาธิ ความสงบ และพลังแห่งปัญญาอย่างสูงสุด

การเคลือบผิวและโทนสี

พื้นผิวขององค์พระเคลือบด้วยน้ำยาใสขุ่นแบบสีงาช้าง ให้ผิวสัมผัสนวลตาเย็นใจดุจหยกขาว น้ำเคลือบนี้เป็นสูตรเฉพาะที่ใช้ในราชสำนัก ซึ่งมีการควบคุมอุณหภูมิและเทคนิคเผาเคลือบอย่างประณีตจนเกิดประกายแวววาวสะท้อนแสงในทุกมุมมอง จีวรขององค์พระเป็นงานเขียนสีที่ล้ำค่า ใช้เทคนิค “ฟาหลางไฉ่” (Falangcai / 珐琅彩) ซึ่งเป็นวิธีการลงสีในเตาเคลือบแบบราชวงศ์ ซึ่งมีเพียงในยุคเฉียนหลงเท่านั้น สีเหลืองทองบนผืนผ้าเปล่งปลั่งประกายโดดเด่น พร้อมประดับด้วยลวดลายดอกไม้มงคลนานาชนิด เช่น ดอกโบตั๋น เบญจมาศ เหมย และดอกบัว แฝงความหมายแห่งความอุดมสมบูรณ์ ความเมตตา ความมั่นคง และความบริสุทธิ์ตามคติในวัฒนธรรมของจีนโบราณ ลายขอบจีวรประดับด้วยลายคลื่นเงินมุก (ลายซื่อชางเหวิน) โดยใช้พู่กันขนาดเล็กแตะสีอย่างบรรจง สะท้อนความประณีตแบบศิลป์หลวงแห่งราชวงศ์ชิงที่มุ่งเทิดทูนพระพุทธศาสนาอย่างสูงสุด

ฐานบัวและลวดลายประดับ

ฐานรององค์พระเป็นฐานบัวซ้อนสองชั้น เคลือบด้วยสีแดง–ชมพูในโทน “หมิงเหว่ยฮง” ซึ่งมีการไล่เฉดสีอย่างละเอียดอ่อน กลีบบัวเรียงซ้อนรอบองค์พระดั่งอุบลผลิบานภายใต้แสงแห่งธรรม ชั้นล่างของฐานเคลือบด้วยสีน้ำเงินไพลิน ตกแต่งด้วยลวดลายเถาไม้และใบไม้มงคล ซึ่งเป็นรูปแบบ “ลายวังมังกร” นิยมเฉพาะงานชั้นสูงของราชสำนักเท่านั้น

พระพักตร์และการแสดงออก

พระพักตร์ขององค์พระเขียนขึ้นอย่างนุ่มนวล พระเนตรหลุบต่ำในอิริยาบถแห่งเมตตา มุมปากยิ้มระเรื่อ เผยแววแห่งความสงบและการบรรลุธรรมขั้นสูง ช่างได้ถ่ายทอดอารมณ์พระโพธิสัตว์ออกมาได้อย่างมีชีวิตชีวา ทำให้ผู้ที่จ้องมองเกิดความสงบทางใจอย่างแท้จริง

คุณค่าทางศิลปะและจิตวิญญาณ

พระพุทธรูปองค์นี้ไม่ได้เป็นเพียงวัตถุแห่งการบูชา หากแต่คือศิลปะแห่งพลังศรัทธาที่ผ่านการหลอมรวมระหว่างจิตวิญญาณของผู้สร้าง กับพุทธธรรมของพระผู้รู้ ช่างที่รังสรรค์พระองค์นี้มิได้เพียงทำงานศิลป์ แต่คือการบูชาธรรมในทุกพู่กันที่แตะลงบนพื้นเคลือบ

นี่คือพระพุทธรูปกังไส ยุคเฉียนหลง ที่สมควรแก่การเชิดชู ทั้งในฐานะของ ศิลปวัตถุชั้นสูง และ วัตถุแห่งศรัทธา ที่สมบูรณ์พร้อมทั้ง “พุทธคุณ – พุทธลักษณ์ – และพุทธศิลป์”

 

ชี้ตำหนิ

จำพุทธลักษณะและรูปแบบให้แม่น พระพุทธรูปนั่งขัดสมาธิบนฐานบัวหลวง จีวรขององค์พระเป็นงานเขียนสีใช้เทคนิค “ฟาหลางไฉ่” หรือการลงสีในเตาเคลือบแบบราชวงศ์ ซึ่งมีเพียงในยุคเฉียนหลงเท่านั้น พื้นผิวขององค์พระเคลือบด้วยยาน้ำยาใสขุ่นแบบงาช้างสูตรเฉพาะที่ใช้ในราชสำนัก

 

 

 

 

จำงานศิลปะให้แม่น จีวรขององค์พระเป็นงานเขียนสีใช้เทคนิค “ฟาหลางไฉ่” หรือการลงสีในเตาเคลือบแบบราชวงศ์ ซึ่งมีเพียงในยุคเฉียนหลงเท่านั้น พื้นผิวขององค์พระเคลือบด้วยยาน้ำยาใสขุ่นแบบงาช้างสูตรเฉพาะที่ใช้ในราชสำนัก ฐานรององค์พระเป็นฐานบัว 2 ชั้น เคลือบสี แดง-ชมพู แบบ “หมิงเหว่ยฮง” ไล่เฉดอย่างละเอียดอ่อน

 

 

 

 

ถ้าคุณมีพระแบบนี้ ผมรับซื้อ ส่งรูปพระของคุณมาที่ Line : @tone8888
ติดตามไลฟ์สดพระแท้ อยากได้พระดี อยากมีพระแท้ ต้องเพจเฟสบุ๊ก โทน บางแค FC. เท่านั้น