“พระครูวรเวทมุนี (หลวงพ่ออี๋ พุทฺธสโร) วัดสัตหีบ”
#พระครูวรเวทมุนี หรือ #หลวงพ่ออี๋ ฉายา พุทฺธสโร อดีตเจ้าอาวาส #วัดสัตหีบ จังหวัดชลบุรี พระเกจิผู้โด่งดังในยุคสงครามอินโดจีน และสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งตรงกับสมัยรัชกาลที่ 8 ของไทย พร้อมหลวงพ่อจาด วัดบางกระเบา, หลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อม และ หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก ในนาม ‘จาด จง คง อี๋’ วัตถุมงคลที่ท่านสร้างแจกจ่ายแก่เหล่าทหารหาญ ล้วนทรงพุทธคุณปรากฏเป็นที่ยำเกรงของศัตรู
พระครูวรเวทมุนี มีนามเดิมว่า อี๋ ทองขำ เกิดเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2408 ตรงกับวันอาทิตย์ขึ้น 11 ค่ำ เดือน 11 ปีฉลู ตรงกับปลายรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นบุตรของนายขำ และนางเอียง ทองขำ ที่บ้านตำบลสัตหีบ กิ่งอำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี
เมื่ออายุได้ 25 ปี ท่านได้อุปสมบท ณ วัดอ่างศิลานอก (ซึ่งปัจจุบันได้ยุบรวมเป็นวัดอ่างศิลาเดียววัดเดียว) โดยมีพระอุปัชฌาย์ คือ พระอธิการจั่น จนฺทสโร วัดเสม็ด พระอาจารย์ทิมเป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอาจารย์แดง เป็นพระอนุสาวนาจารย์ และได้ให้ฉายาให้ว่า พุทฺธสโร
ท่านได้อยู่ศึกษาธรรมมะและเวทมนตร์ต่าง ๆ กับพระอาจารย์แดงถึง 6 พรรษา ก่อนไปฝากตัวเป็นศิษย์กับพระครูพิพัฒนิโรจธกิจ (ปาน) วัดคลองด่าน ซึ่งช่วงนั้นมีชื่อเสียงมาก และท่านยังได้ออกธุดงควัตรไปทั่วทุกภาคของประเทศไทย เมื่อบังเกิดความกล้าแข็งทางจิต สัมฤทธิ์ในธรรมแล้ว จึงเดินทางกับมาสร้างวัดสัตหีบขึ้น ใช้เวลาเพียง 5 ปีจึงสมบูรณ์ ท่านได้ใช้วิชาอาคมอันแก่กล้า มาสร้างและปลุกเสกเครื่องรางของขลังต่าง ๆ มาแจกกับศิษยานุศิษย์ โดยเฉพาะปลัดขิกนั้นโด่งดังที่สุดในเมืองไทย เป็นที่เลื่องลือในคุณวิเศษมาจนถึงทุกวันนี้
ด้านงานปกครอง ในปี พ.ศ. 2467 ท่านได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าคณะตำบลสัตหีบ และเป็นพระอุปัชฌาย์ และปีพ.ศ. 2484 ได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าคณะแขวงกิ่งอำเภอสัตหีบ
ส่วนสมณศักดิ์ ในปี พ.ศ. 2484 ได้รับพระพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรในราชทินนามที่ “พระครูวรเวทมุนี”
หลวงพ่ออี๋ ได้สร้างพระเครื่องรางต่างๆ ไว้มากมาย ทั้ง ปลัดขิก ตะกรุด เสื้อยันต์ เหรียญพระปิดตา “พระสาม” และ “พระสี่” (พรหมสี่หน้า) ซึ่งล้วนสร้างประสบการณ์เป็นที่ปรากฏเลื่องลือ
หลวงพ่ออี๋ ท่านมรณภาพในท่านั่งสมาธิเมื่อวันที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2489 ตรงกับรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร สิริอายุได้ 80 ปี