สงกรานต์นี้ กิจกรรมสุดคูลที่คุณจะได้พักกาย พักใจ อยู่ใกล้น้ำ เราจะมาแนะนำล่องเรือทำบุญเสริมสิริมงคลให้ชีวิตดี๊ดี ว่าแต่จะไป ทำบุญวัดไหนดี และทริปนี้จะมีเส้นทางการล่องเรือยังไงบ้าง มาดูไปพร้อมๆ กันเลย
Thank you for reading this post, don't forget to subscribe!1. วัดยานนาวา
เริ่มต้นทริป ล่องเรือไหว้พระ 9 วัด กรุงเทพ กันที่ วัดยานนาวา ซึ่งเป็นวัดที่อยู่ติดกับ BTS สะพานตากสิน มีเรือสำเภาขนาดใหญ่เป็นสัญลักษณ์ภายในวัด ซึ่งชื่อเดิมคือ “วัดคอกควาย” และรัชกาลที่ 3 โปรดเกล้าฯ ให้ปฏิสังขรณ์และสร้างเรือสำเภาพระเจดีย์แทนพระสถูปเจดีย์ทั่วไป เพื่อให้คนรุ่นหลังได้เห็นรูปแบบเรือสำเภาซึ่งกำลังจะหมดไปจากเมืองไทย จึงได้เปลี่ยนชื่อจากวัดคอกควายเป็นวัดยานนาวา สำหรับการมาไหว้วัดนี้มีคติว่า “การค้าขาย การทูต เจริญรุ่งเรือง” ใครทำมาค้าขายก็อย่าลืมแวะมาไหว้พระขอพรได้ที่วัดนี้ได้เลย
2. วัดสุทธิวราราม
ตั้งอยู่ไมไกลกับวัดยานนาวา ถนนเจริญกรุง ใกล้กับศาลแพ่งกรุงเทพใต้ สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยกรุงธนบุรี เดิมเรียกกันว่า “วัดลาว” ภายในวัดมีอุโบสถเป็นลักษณะทรงไทยวิจิตรงดงาม อุโบสถจัตุรมุขหินอ่อน 2 ชั้น มีศาลาการเปรียญเป็นอาคารไม้ และเจดีย์ทรงลังกา 1 องค์ สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 7 เป็นแบบศิลปะไทยประยุกต์ โดยสร้างครอบเจดีย์องค์เก่า เรียกว่า เจดีย์ดำ บริเวณวัดร่มรื่นและเต็มไปด้วยต้นไม้ วัดสุทธิวรารามถือเป็นวัดราษฎร์แห่งแรกที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเสด็จพระราชดำเนินถวายผ้าพระกฐิน และเป็นวัดประจำสกุล “ณ สงขลา”
3. วัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร
วัดริมน้ำชื่อดังอย่าง วัดอรุณ หรือ วัดแจ้ง โดยเพื่อนๆ สามารถซื้อตั๋วเรือด่วนเจ้าพระยา (ธงส้ม) ได้ที่ท่าเรือสาทรเพื่อไปที่ท่าเรือวัดอรุณได้เลย วัดอรุณได้รับการสันนิษฐานว่าสร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยา เป็นวัดประจำรัชกาลที่ 2 ที่วัดมีพระปรางค์สีขาวสวยงามเป็นสัญลักษณ์ ประดับด้วยเครื่องกระเบื้องเคลือบและเครื่องถ้วยชามเบญจรงค์ที่นำเข้ามาจากจีน เป็นจุดท่องเที่ยวยอดนิยมของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ จะแวะเวียนเข้ามาถ่ายภาพสวยๆ กันอยู่ตลอด โดยพระปรางค์วัดอรุณ ถือว่าใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และมีความเชื่อกันว่า หากใครได้มากราบไหว้พระที่วัดอรุณ “ชีวิตจะรุ่งโรจน์ ทุกคืนวัน” เหมือนชื่อวัดนั่นเอง เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30-17.30 น. คนไทยสามารถเข้าชมได้ฟรี
4. วัดระฆังโฆสิตาราม วรมหาวิหาร
วัดระฆัง เดิมชื่อ “วัดบางหว้าใหญ่” เป็นวัดโบราณในสมัยอยุธยา ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาใกล้กับท่าเรือวังหลัง วัดนี้เคยเป็นที่ประทับของสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) พระมหาเถระรูปสำคัญที่คนไทยรู้จักกันดี จึงทำให้วัดระฆังมีอีกชื่อที่เป็นที่รู้จักว่า “วัดหลวงพ่อโต” วัดระฆังเปิดทำการทุกวัน ตั้งแต่ 08.00-17.00 น. โดยไม่เสียค่าเข้าชมทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ สำหรับใครที่มาเดินเล่นแถววังหลังและคิดว่าอยากจะแวะ ทำบุญวัดไหนดี ขอบอกเลยว่ามาไหว้ขอพรหลวงพ่อโตและปล่อยนกปล่อยปลาที่วัดนี้กันได้ เชื่อกันว่า มาทำบุญที่วัดระฆัง จะทำให้มีชื่อเสียงโด่งดัง คนนิยมชมชอบ เหมือนชื่อวัดนั่นเอง
5. วัดอมรินทราราม วรวิหาร
วัดอมรินทราราม วรวิหาร ตั้งอยู่ติดกับโรงพยาบาลศิริราช เดิมชื่อว่า “วัดบางว้าน้อย” เป็นวัดเก่าแก่ที่อยู่คู่กับวัดระฆัง จุดเด่นที่เลื่องชื่อของวัดคือ “วิหารหลวงพ่อโบสถ์น้อย” ที่ประดิษฐานของ “หลวงพ่อโบสถ์น้อย” พระประธานปูนปั้นศิลปะแบบสุโขทัยจากครั้งสงครามมหาเอเชียบูรพา มีระเบิดลงภายในวัดนี้ทำให้ทุกอย่างเสียหายหมด เหลือแต่วิหารหลวงพ่อโบสถ์น้อยและมณฑปพระพุทธบาทจำลอง จึงทำให้ความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อโบสถ์น้อยขึ้นชื่อมาตั้งแต่นั้น วัดอมรินทรารามเป็นอีกวัดที่ผู้คนนิยมมากราบสักการะขอพรจากหลวงพ่อ และมีคติความเชื่อที่ว่ามาไหว้วัดนี้ “พระอินทร์ประทานพรให้ปลอดภัยจากอันตรายทั้งปวง”
6. วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร
วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร วัดใหญ่สวยงามตั้งตระหง่านริมแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นอีกหนึ่งวัดไทยที่ผสมผสานกับศิลปะสไตล์จีน สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 3 โดยเจ้าพระยานิกรบดินทร์ (โต กัลยาณมิตร) ภายในพระวิหารหลวงมีพระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัยองค์ใหญ่ที่เคารพนับถือคือ “หลวงพ่อโต” หรือ “พระพุทธไตรรัตนนายก” หรือเรียกตามแบบจีนว่า “หลวงพ่อซำปอกง” การมาไหว้พระที่วัดนี้มีคติความเชื่อในเรื่องขอให้ “เดินทางปลอดภัย มีมิตรไมตรีที่ดี” ตามชื่อวัดนั่นเอง
7. วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร
วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ “วัดโพธิ์ ท่าเตียน” หนึ่งในวัดที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดในกรุงเทพฯ เป็นวัดประจำรัชกาลรัชกาลที่ 1 มาไหว้พระวัดโพธิ์มีคติที่ว่า “เพื่อความร่มเย็นเป็นสุข” เหมือนอยู่ใต้ร่มโพธิ์ร่มไทรนั่นเอง โดยมุมยอดฮิตที่เราขอแนะนำให้ไปชมเลยก็คือ “มหาเจดีย์สี่รัชกาล” ที่สุดแสนจะวิจิตรงดงาม และความพิเศษของวัดนี้อีกอย่างหนึ่งเลยก็คือ วิหารพระพุทธไสยาส ที่สร้างขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว มีความสวยงามและใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศ เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30-17.30 น. และแน่นอนว่าคนไทยเข้าชมฟรีจ้า
8. วัดพระศรีรัตนศาสดาราม
ต่อจากวัดโพธิ์ ก็ต้องเป็นวัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือ วัดพระแก้ว สัญลักษณ์แห่งศิลปวัฒนธรรมไทยอันโดดเด่นใจกลางเมืองกรุง วัดสำคัญคู่บ้านคู่เมืองของประเทศที่อยู่ภายในบริเวณพระบรมมหาราชวัง เป็นที่ประดิษฐาน “พระแก้วมรกต” การได้มาไหว้พระที่วัดพระแก้วมีคติว่า “เพื่อจิตใจสะอาด ดุจรัตนตรัย” โดยขอแนะนำให้มาช่วงเช้า เพราะช่วงบ่ายนักท่องเที่ยวต่างชาติจะเยอะมาก เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30-16.30 น. ปิดการจำหน่ายตั๋วเวลา 15.30 น. สำหรับคนไทยเข้าชมฟรี แต่อย่าลืมพกบัตรประชาชนไปด้วยนะ
9. วัดชนะสงครามราชวรมหาวิหาร
ปิดท้ายการแนะนำทริปล่องเรือไหว้พระกันที่ท่าเรือด่วนพระอาทิตย์ กับ วัดชนะสงครามราชวรมหาวิหาร วัดเก่าแก่สมัยกรุงศรีอยุธยา เดิมชื่อ วัดกลางนา ถือเป็นหนึ่งในวัดดังย่านถนนข้าวสาร และเป็นวัดที่คนไทยนิยมมากราบไหว้ขอพรให้ “มีชัยชนะต่ออุปสรรคทั้งปวง” ใครยังคิดไม่ออกว่า ทำบุญวัดไหนดี แนะนำมาไหว้พระที่วัดชนะสงครามก็ดีไม่น้อย
สำหรับทริป ล่องเรือไหว้พระ 9 วัดในกรุงเทพ หลายคนที่กำลังหาแพลนทำบุญสงกรานต์นี้ ปักหมุดตามได้เลย
