ประคำบายศรี หลวงปู่ศุข วัดปาดคลองมะขามเฒ่า จ.ชัยนาท

Thank you for reading this post, don't forget to subscribe!

ลูกประคำยอดบายศรี หลวงปู่ศุข หนึ่งในสุดยอดแห่งพุทธคุณ

“ตามตำนานสร้างประคำ ยอดบายศรี ทำพิธีบวงสรวง เสกของขลัง ทั้งราชวัตรฉัตรธง ให้ทรงพลัง มีบายศรีพร้อมพรั่ง ทั้งหมากพลู หลวงปู่ศุขปลุกเสก ประคำยอด ห้ามใครถอดก่อนพิธี ถือลบหลู่ โยงสายศีลรอบมณฑล อัญเชิญครู อ่านโองการเชิญพ่อปู่ และเทวดา เสร็จพิธีนำประคำ มอบแด่ศิษย์ ผู้สัมฤทธิ์ฝึกฝน มนต์คาถา มอบประคำแทนครู เพื่อบูชา น้อมนำพาติดตัว เป็นมงคล” ประพันธ์โดย พยัพ คำพันธุ์
ลูกประคำจึงมักนิยมใช้จำนวน 108 เม็ด ซึ่งถือเป็นมงคลอันสูงสุด และถ้าจะกล่าวถึงพระเกจิอาจารย์ที่ทำ “ลูกประคำยอดบายศรี” ได้โด่งดังในอันดับต้นๆ แล้ว ต้องมีชื่อของ หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า จ.ชัยนาท รวมอยู่ด้วย พระครูวิมลคุณากร หรือ หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า พระเกจิผู้ได้รับการยกย่องให้เป็น “เจ้าสำนักทางพุทธาคมอันยิ่งใหญ่แห่งลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา” ท่านเป็นพระอาจารย์ทางพุทธาคมรูปแรกของเสด็จในกรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ วัตถุมงคลของท่านมีมากมาย ซึ่งล้วนแต่เป็นที่เคารพศรัทธาและเป็นที่นิยมสะสมกันแทบทั้งสิ้น ด้วยพุทธคุณอันแก่กล้าที่ปรากฏประจักษ์แก่ผู้สักการบูชา ทั้งด้านเมตตามหานิยม และ ด้านแคล้วคลาด คงกระพัน

หลวงปู่ศุข เป็นชาวจังหวัดชัยนาทโดยกำเนิด เกิดเมื่อปี พ.ศ.2390 แถบวัดปากคลองมะขามเฒ่า เข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์เมื่ออายุครบ 22 ปี ณ วัดโพธิ์บางเขน (ปัจจุบันคือ วัดโพธิ์ทองล่าง) มี หลวงพ่อเชย จันทสิริ อดีตเจ้าอาวาสวัดโพธิ์ทองล่าง เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับการถ่ายทอดวิชาความรู้จากหลวงพ่อเชย ซึ่งเป็นพระอาจารย์ฝ่ายวิปัสสนาธุระที่มีความรู้ความชำนาญรู้แจ้ง ทั้งยังเก่งกล้าทางด้านวิทยาคมอีกด้วย ต่อมามารดาชราลงและเจ็บไข้บ่อยๆ หลวงปู่ศุขจึงเดินทางกลับไปจำพรรษาที่วัดอู่ทองปากคลองมะขามเฒ่า ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่โบราณลึกเข้าไปในคลองมะขามเฒ่า สภาพของวัดขณะนั้นชำรุดทรุดโทรมมากตามกาลเวลาเกินกว่าจะบูรณะ ท่านจึงขยับขยายออกมาที่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา สร้างเป็น “วัดปากคลองมะขามเฒ่า” ที่สมบูรณ์และเจริญรุ่งเรืองสืบมาจนปัจจุบัน

วัตถุมงคลแรกเริ่มของหลวงปู่ศุขนั้น ท่านได้สร้าง “พระพิมพ์สี่เหลี่ยมซุ้มรัศมี” เพื่อเป็นที่ระลึกในงานฌาปนกิจศพของมารดา ปรากฏว่าผู้ที่ได้รับไปสักการบูชา ต่างเกิดปาฏิหาริย์ปรากฏด้านอยู่ยงคงกระพัน โดยเฉพาะเกี่ยวกับเขี้ยวงา ด้วยกิตติศัพท์ความเข้มขลังนี้ ชื่อเสียงและเกียรติคุณของท่านจึงเริ่มโด่งดังขจรขจาย ยิ่งวัดปากคลองมะขามเฒ่ามีทำเลอยู่ริมฝั่งแม่น้ำ และเป็นเส้นทางคมนาคมสายหลัก ยิ่งทำให้ชื่อเสียงแพร่ไปอย่างรวดเร็ว

หลวงปู่ศุขท่านเริ่มมีอาการอาพาธด้วยโรคชราและมรณภาพลงด้วยอาการสงบในปี พ.ศ.2466 สิริอายุได้ 75 ปี พรรษาที่ 50 แม้ท่านละสังขารไปแล้วเป็นเวลาเนิ่นนาน แต่ชื่อเสียงและเกียรติคุณของท่านยังคงจารึกในความทรงจำของพุทธศาสนิกชนสืบมาถึงปัจจุบัน โดยเฉพาะวัตถุมงคลของท่านนั้นเป็นที่ต้องการและแสวงหาอย่างสูง
เมื่อกล่าวถึง “ประคำบายศรี” ของท่าน มีอายุการสร้างกว่า 100 ปี เม็ดประคำจะทำจาก งา กะลา และ เขาสัตว์ บางเส้นทำจากผงคลุกรัก “ยอดบายศรี” ทำด้วยงาช้าง มีทั้งที่จารและไม่จาร ปลายยอดบายศรีจะมีเส้นๆ ลักษณะคล้ายภู่ แต่คนโบราณเรียก “ไหม” ซึ่งมีทั้งที่เป็นไหมเจ็ดสีและไหมสีเหลือง มีด้วยกันหลายขนาด ทั้งใหญ่ กลาง เล็ก และจิ๋ว จัดสร้างจำนวนน้อยมาก แต่ประสบการณ์เรียกได้ว่าสุดยอด ทำให้มีการทำเทียมเลียนแบบค่อนข้างสูง ต้องพิจารณากันให้ถี่ถ้วนวันนี้ผมมีประคำบายศรี หลวงปู่ศุข มาให้ดูกันครับ

 

ชี้ตำหนิ

ประคำบายศรี หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า เม็ดประคำเป็นเนื้อผงคลุกรัก ดูความเก่าเป็นหลัก ยอดบายศรีส่วนมากจะเป็นงาแกะจารด้วยลายมือของหลวงปู่ศุข ปลายยอดบายศรีผูกด้วยไหมสีถักปมเป็นเอกลักษณ์ ด้านหลังลูกประคำจะเป็นงา

 

 

 

 

 

ถ้าคุณมีพระแบบนี้ ผมรับซื้อ ส่งรูปพระของคุณมาที่ Line : @tone8888
ติดตามไลฟ์สดพระแท้ อยากได้พระดี อยากมีพระแท้ ต้องเพจเฟสบุ๊ก โทน บางแค FC. เท่านั้น